ISO Curma Collagen ไอโซเคอร์ม่า คอลลาเจน ฟื้นฟู ดูแล ข้อต่อ ข้อเข่า กระดูก
ISO Curma Collagan ทำไมต้องเลือก? ไอโซ เคอร์ม่า คอลลาเจน ข้อเข่าดังกร๊อบแกร๊บ ปวดอักเสบ รู้สึกกระดูกข้ออ่อนแอ ไม่ต้องลังเลใจที่จะเลือก ไอโซ เคอร์ม่า คอลลาเจนผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากขมิ้นชัน สารสกัด Undenatured Collagen Type II เรียกย่อๆ ว่า “ยูซีทู”(UC-II) และสารสกัดจากถั่วเหลือง ไอโซ เคอร์ม่า คอลลาเจน เปลี่ยนปัญหาข้อเข่าของคุณ ให้กลายเป็นเรื่องเล็กๆ
ไอโซเคอร์ม่า คอลลาเจน
ผลิตภัณฑ์ที่ผสานสารสกัดเคอร์คูมินอยด์จากขมิ้นชัน
คอลลาเจน Type ll และสารสกัดไอโซฟลาโวน
จากถั่วเหลือง
เปลี่ยนปัญหาข้อเข่า ให้กลายเป็นเรื่องเล็กๆ
ด้วย
ส่วนประกอบสำคัญ
1. สารสกัดเคอร์คูมินอยด์จากขมิ้นชัน
ลดอาการปวด อักเสบของกล้ามเนื้อ ข้อต่อ เส้นเอ็น
.
2. สารสกัดคอลลาเจน TYPE II
เป็นคอลลาเจนที่ใกล้เคียงกับคอลลาเจนที่ร่างกายสร้างขึ้นที่สุด ช่วยบำรุงและลดการเสื่อมของข้อต่อ
.
3. สารสกัดจากถั่วเหลือง
กระตุ้นการสร้างมวลกระดูก เพื่มความหนาแน่นของกระดูก
คำยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญ
ถึงเวลา…เริ่มใส่ใจ”ข้อเข่า”ของคุณได้แล้ว คืนความยืดหยุ่นให้ข้อกระดูก ห่างไกลการอักเสบ ภายในข้อต่อ
ยินดีให้คำปรึกษา
สายด่วนโทร. 096-242-2952 ,095-534-9939
ไอโซ เคอร์ม่า คอลลาเจน เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสาน สารสกัดจากขมิ้นชัน ถั่วเหลือง และ คอลลาเจน ไทพ์ทู ไว้ได้อย่างลงตัว ทำให้สามารถ “บำรุง” ข้อต่อกระดูก โดยเฉพาะข้อเข่าได้ดี หลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บ ปวดอักเสบของข้อต่อ และยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างมวลกระดูก เพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อกระดูกอีกด้วย
ไอโซเคอร์ม่า คอลลาเจน
อย.เลขที่ 50-2-05159-5-0050
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสารสกัดเคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids) จากขมิ้นชัน คอลลาเจน ไทพ์ ทู (Collagen Type II) และสารสกัดไอโซฟลาโวน (Isoflavone) จากถั่วเหลือง
เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อเข่า ข้อต่อกระดูก เส้นเอ็นอักเสบ และผู้ที่ต้องการการบำรุงข้อกระดูกเป็นพิเศษ
ยินดีให้คำปรึกษา
สายด่วนโทร. 096-242-2952 ,095-534-9939
ไอโซเคอร์ม่าคอลลาเจน เหมาะกับ
- นิ้วล็อค ปวดตามข้อ
- ผู้ที่ออกกำลังกายบ่อยครั้ง
- อาการออฟฟิศซินโดรม
- ผู้ทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานาน
- ผู้ป่วยโรคข้ออักเสบ ข้อเสื่อม
- ผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูก เส้นเอ็น
- ผู้ที่ต้องใส่ส้นสูงยืน หรือเดินบ่อยครั้ง
- ผู้ที่เดินขึ้น-ลงบันไดบ่อยครั้ง
โรคข้อเข่าเสื่อมปวดเข่า เข่าเสื่อม อาการปวดเข่า เจ็บเข่าที่มักเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ โรคเข่าเสื่อม ปวดเข่าเกิดจากอะไร
ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โรคข้อเข่าเสื่อมปวดเข่า เข่าเสื่อม เข่าอักเสบ จึงเป็นหนึ่งในโรคและอาการสำคัญที่ผู้สูงอายุ หรือ ผู้ที่ต้องดูแลผู้สูงอายุจำเป็นต้องรู้สาเหตุ อาการ และการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมอย่างถูกต้อง
สาเหตุโรคข้อเข่าเสื่อมปวดเข่า เข่าเสื่อม เข่าอักเสบ คือ
- ผู้ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไปจะเริ่มมีอาการปวดเข่า เข่าเสื่อม พบว่าโรคข้อเข่าเสื่อมจะเป็นในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
- ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก เป็นโรคอ้วนจะยิ่งเพิ่มโอกาสการเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมไวยิ่งขึ้น
- การใช้งานขาและหัวเข่าผิดท่า หรืออยู่ในท่าที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน เช่น การก้มยกของ คุกเข่า นั่งพับเพียบ เดินขึ้นบันได นั่งขัดสมาธิ ฯลฯ
- เคยเกิดอุบัติเหตุกับหัวเข่า เช่น รถชน หัวเข่ากระแทกจากการอุบัติเหตุหรือการเล่นกีฬา ฯลฯ
- โรคข้อเข่าเสื่อมจากพันธุกรรม
ข้อมูลเกี่ยวกับโรคเข่าเสื่อม
ด้าน รศ.นพ.ปัญญาเสริมว่า ผู้ป่วย 95 เปอร์เซ็นต์ที่มา พบแพทย์ส่วนใหญ่ไม่ใช่โรคข้อเข่าเสื่อม แต่เป็นเพราะผู้ป่วย ไม่ค่อยออกกำลังกาย จึงทำให้เกิดอาการกระดูกลั่น และวิตกกังวลเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม แท้จริงแล้ว โรคข้อเข่าเสื่อมไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไรมากนัก และเกิดกับทุกคน ไม่ว่าจะดูแลดี หรือน้อยเพียงใดก็ตาม
“แต่การช่วยบรรเทาอาการที่ดีที่สุด คือ ควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วนมากเกินไป ฝึกวินัยการรับประทานอาหาร ควรรับประทานอาหารมื้อเช้าทุกครั้งให้มากพอ ส่วนกลางวันลดปริมาณลง และเย็นลดปริมาณให้น้อยที่สุด การดูแลเรื่องข้อเข่าเสื่อมจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป” รศ.นพ.ปัญญากล่าว
อีกหนึ่งขั้นตอนในการทำกายภาพบำบัด คงเป็นเรื่องการ ออกกำลังกาย เนื่องจากทุกๆ ก้าวที่เราเดิน จะมีแรงกระทำที่ข้อเข่า ข้อสะโพก 1 เท่าครึ่งของน้ำหนักตัว แต่ถ้าทุกก้าวที่วิ่ง จะมีแรงกระทำกับน้ำหนัก 3 เท่า ของน้ำหนักตัว ดังนั้นการออกกำลังกายด้วยการเดินจึงเป็นการออกกำลังกายที่สมเหตุสมผล
รศ.นพ.ปัญญาแนะนำวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ผ่าตัดข้อเข่าเสื่อมด้วยวิธีการ เดินเร็ว หรือขี่จักรยานอยู่กับที่ ข้อมูลทางการแพทย์พบว่า การขี่จักรยานมีแรงกระทำน้อยกว่าการเดินเสียอีก พบว่าทำให้กล้ามเนื้อมีการเคลื่อนไหว และถูกใช้งานไปประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ข้อเข่าไม่สึกหรอ
สำหรับคนที่ผ่าตัดข้อเข่าเทียม แพทย์จะแนะนำให้เดิน ออกกำลังกาย ส่วนวิธีอื่นๆ ที่ไม่ต้องใช้แรงมาก อาทิ การยืนแกว่งแขน มีผลทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น ดังนั้น ผู้ป่วยไม่ควรมองข้ามเรื่องการออกกำลังกาย เพราะเป็นยาวิเศษทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง กระดูกจะมีการพัฒนาควบคู่ไปด้วย
นอกจากนี้ ยังมีศาสตร์การนวดเพื่อรักษาโรคข้อเข่า ซึ่ง เกิดขึ้นในลักษณะของการสอนที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยการสอนแพทย์แผนประยุกต์ นำทฤษฎีท่าฤาษีดัดตน มาประยุกต์ใช้เข้าด้วยกัน จึงเป็นการรักษาโรคเพื่อกระตุ้นให้กล้ามเนื้อข้อเข่าตื่นตัวขึ้น การนวดแบบนี้จะเป็นการรักษาโรค ซึ่งแตกต่างจากการนวดเพื่อผ่อนคลาย เนื่องจากใช้ผู้นวดที่ผ่านการอบรม และนวดตามโรคที่เป็น
ถือเป็นหลายทางเลือกให้กับผู้รักษาโรคข้อเข่าเสื่อม แม้การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ แต่บางครั้งก็เลี่ยงไม่ได้เช่นกัน
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด โดย วิภาดา ลิจันทร์พร